นักวิชาการของ Rabbinic Judaism ซึ่งเป็นตัวอย่างโดย Maimonides เขียนว่าคนที่ปฏิเสธอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ของ Oral Torah จะได้รับการพิจารณาในหมู่คนนอกรีต ในทางกลับกันในขณะเดียวกันไมโมนิเดสถือ (ฮิลค็อตมัมริม 3: 3) ว่าชาวคาราอิทส่วนใหญ่และคนอื่น ๆ ที่อ้างว่าปฏิเสธ "คำสอนปากเปล่า" จะไม่ต้องรับผิดชอบต่อความผิดพลาดในการปกครองด้วยเหตุ ว่าพวกเขานำไปสู่ความผิดพลาดโดยพ่อแม่และคล้ายกับ Tinok shenishba (ทารกที่ถูกจองจำ) หรือคนที่ถูกบังคับ
นักวิชาการรับบีนิกถือกันตามเนื้อผ้าเนื่องจากชาวคาราอิตไม่ปฏิบัติตามกฎของแรบบินิกเกี่ยวกับการหย่าร้างจึงมีข้อสันนิษฐานที่ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นมัมเซริม (ไอ้นอกรีต) ดังนั้นการแต่งงานกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งต้องห้ามแม้ว่าพวกเขาจะกลับไปยังแรบบินิกยูดาย. นักวิชาการ Ashkenazi Ḥarediคนใหม่บางคนเชื่อว่า Karaites ควรได้รับการยกย่องว่าเป็นคนต่างชาติทุกประการเนื่องจากอาจไม่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล พวกเขาเร่งเสริมว่าความคิดเห็นนี้ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อดูหมิ่นชาวคาราอิท แต่เพียงเพื่อให้ชาวคาราอิทแต่ละคนมีทางเลือกในการรวมเข้ากับศาสนายิวกระแสหลักโดยการเปลี่ยนใจเลื่อมใส ในทางกลับกันในปี 1971 Ovadia Yosef ซึ่งขณะนั้นเป็นหัวหน้ารับบีของ Sefaradim และ 'Edot HaMizraḥแห่งอิสราเอลได้ประกาศว่าชาวอียิปต์ Karaites เป็นชาวยิวและอนุญาตให้ชาวยิว Rabbinic แต่งงานกับพวกเขาได้
ภาพ 243B | Karaite Synagogue Congregation B'nai Israel (Daly City, California) | ไม่ระบุชื่อ / แสดงที่มา - แบ่งปันเหมือนกัน 3.0 Unported
ผู้เขียน : Tobias Lanslor
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น